นายที่ลูกน้องไม่ชอบ

Posted: มิถุนายน 30, 2011 in Story of Guu

นายที่ลูกน้องไม่ชอบ

   ผู้เขียนสำรวจข้อมูลอย่างง่ายๆ ในห้องสัมมนาผู้บริหารชาวไทย 3 ห้อง จากกว่า 20 บริษัท จำนวน 72 คน ผู้บริหารแต่ละท่านเสนอลักษณะนายที่ตนเคยทำงานด้วยแล้วไม่ชอบไม่ประทับใจออก มา ได้ข้อมูลให้พวกเรานักบริหารพอดูเป็นแนวทางเบื้องต้นได้ว่า คนที่นักบริหารระดับกลางเหล่านี้ไม่ชอบเป็นอย่างไร (ดูตารางประกอบ)

              

ลักษณะพฤติกรรมของนายหรือหัวหน้าที่คนไม่ชอบมากที่สุดที่พบจากการสำรวจครั้งนี้ คือ นายที่เจ้าอารมณ์ โมโหง่าย ขี้โวยวาย หรือเรียกได้ว่าเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้วระเบิดลงที่ลูกน้อง บางคนก็เรียกว่า EQ ต่ำ บางคนเรียกปี๊ดเก่ง

                 

ผลกระทบต่อเนื่อง คือ ลูกน้องไม่อยากเข้าใกล้นายเหล่านี้ พยายามปฏิสัมพันธ์ด้วยน้อยที่สุด เลี่ยงได้เลี่ยง รู้สึกหวาดกลัว มีปัญหาอะไรไม่กล้าปรึกษา รอให้เกิดจำเป็นจริงๆ จึงไปพบ กลัวอารมณ์ของนาย ทำงานด้วยแล้วไม่มีความสุข ผู้บริหารที่ให้ข้อมูลหลายคนพูดชัดเจนว่า ถ้ามีโอกาสไปทำงานที่อื่นก็จะไป ไม่อยากทำงานด้วยแล้ว นายบางคนที่รู้ตัวจึงไปฝึกจิตใจฝึกอารมณ์กันต่างๆ นานา

อันดับ 2 คือ เอาเหตุผลของตนเป็นใหญ่ เอาแต่ใจไม่ค่อยมีเหตุผล ไม่ฟังใคร ซึ่งเนื้อหาสอดคล้องกับอันดับ 3 หรือไม่รับฟังความคิดเห็นของลูกน้อง โดยมีอาการที่เกี่ยวข้อง เช่น ไม่ค่อยให้ความยอมรับนับถือ ไม่ให้เกียรติลูกน้อง ไม่เข้าใจลูกน้อง ซึ่งถ้ารวมหมวดการไม่ฟังคนอื่นเอาแต่ตนเองเป็นใหญ่นี้ คะแนนแซงนำไปที่ 20 แต้ม ซึ่งไม่ได้ทำให้ผู้เขียนแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากได้รับรู้ได้ฟังจากนักบริหารต่างๆ ที่เข้าสัมมนากันมานับไม่ถ้วน

หัวหน้าหรือนายที่เอาเหตุผลของตนเป็น ใหญ่ ฟังลูกน้องอย่างแท้จริงน้อยนั้น นอกจากจะไม่ได้รับข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินใจปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้ว จะเห็นได้ว่าลูกน้องไม่พอใจ รู้สึกว่านายเอาแต่ใจ เสนออะไรไปก็ไม่ฟัง หรือไม่ก็ฟังไปอย่างนั้นเอง ในที่สุดก็เอาความเห็นของตนเองอยู่ดี ลูกน้องรู้สึกว่านายไม่ยอมรับในตัวของเขา ไม่นับถือเขา ไม่ให้เกียรติเขา ซึ่งก็คือขาดตัวจูงใจข้อ recognition หรือการยอมรับนั่นเอง

ลักษณะถัดมาคือการที่ผู้บริหารไม่ค่อยช่วยแก้ปัญหาให้ลูกน้อง บางคนไม่ช่วยแล้วโวยวายซ้ำระเบิดอารมณ์แทน บางคนไม่กล้าตัดสินใจ ถ้าเราซึ่งเป็นนายไม่รู้ทางแก้ไขปัญหา ก็สามารถ “ร่วมกัน” แก้ปัญหาได้กับลูกน้องด้วยเทคนิคการ coach ฟังกันช่วยกันหาข้อมูลช่วยกันคิดหรือทำให้เขาคิดออกได้เอง หรือพาไปหาผู้รู้ นายไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเพียงแค่เราช่วยลูกน้องแก้ปัญหา

ในทางกลับกันนายบางคนกลับจู้จี้จุกจิกกับทุกเรื่อง ลงรายละเอียดมากจนทำให้ลูกน้องอึดอัด ถ้าจำเป็นต้องเนี้ยบในเรื่องนั้นๆ นายอาจจำเป็นต้องอธิบายให้ลูกน้องทราบถึงความจำเป็นหรือความสำคัญในเรื่อง นั้นๆ ลูกน้องจะได้เข้าใจและใส่ใจในเรื่องนั้นๆ มากขึ้น ไม่เพียงแต่จี้บ่นด่าไปเรื่อยเหมือนในผลการสำรวจ

ลักษณะ นายที่ไม่ชอบยังมีอีกประปรายที่เราให้สำรวจตัวเองได้อีก เช่น หลอกใช้ ชอบเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน ทำอะไรไม่เป็น เห็นแก่ตัว ไม่มีความเป็นผู้นำ จับผิดเก่ง ลืมแล้วมาด่าลูกน้อง ไม่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ค่อยลงรายละเอียดของคน ไม่สามารถสั่งลูกน้องได้ พูดมาก ฟังปัญหาไม่ค่อยจบจะแก้อย่างเดียว มีปัญหาแล้วไม่ค่อยพูด ไม่พอใจก็ไม่บอก สั่งงานเกินขอบเขตของงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่ให้คำแนะนำที่ดีเวลาถาม บริหารแล้วขาดทุน ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ไม่กล้าตัดสินใจ งานช้า ทำปัญหาเล็กให้เป็นปัญหาใหญ่ ฯลฯ

ท่านผู้อ่านลองสำรวจตัวเราเองอย่างเป็นธรรมดูนะคะว่าเรามีลักษณะที่ไม่พึงประสงค์นี้มากน้อยแค่ไหน เรื่องใดควรต้องรีบแก้ไขพัฒนาด่วน การค้นพบและยอมรับส่วนที่เราจะปรับปรุงเพิ่มขึ้นได้นั้นเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาตัวเราเอง เรามาสำรวจตัวเราร่วมกันนะคะ

ใส่ความเห็น